สวัสดีครับทุกคนช่วงคืนวันที่ 24 มิถุนายน 2564 (22.00น.) ที่ผ่านมา ได้มีงานเปิดตัวซอฟแวร์ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี จะพูดว่าอยู่มานานตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่เลย และจนถึงปัจจุบันนี้ ไม่มีใครไม่เคยใช้งานโปรแกรมนี้ ใช้งานกันแทบจะทุกสายงานเลยก็ว่าได้ ก็ไม่ใช่ใครเลย นั่นก็คือ Microsft บริษัทซอฟแวร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่เปิดตัว ระบบปฏิบัติการ เวอร์ชั่นใหม่ใช้ชื่อว่า Windows 11 ซึ่งพัฒนาและปรับปรุงมาจากวินโดว์รุ่นก่อนหน้าอย่าง Windows 10 นั้นเอง วันนี้นายออนไลน์จะมาสรุปให้ฟังว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ไปดูกันเลย
อย่างที่ทราบกันดีว่า การที่ ระบบปฏิบัติการวินโดว์ นั้นมีมาหลายเวอร์ชั่น จนมาถึงเวอร์ชั่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปนั้น เป็นเวอร์ชั่นที่ 11 ซึ่งถ้าลองมาไล่ดูลำดับของ ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ตั้งแต่ยุคแรกที่เข้ามาใช้งานใน ประเทศไทย ก็จะสรุปได้ประมาณนี้ว่า
ถ้าดูจากระยะเวลาของแต่ละเวอร์ชั่นในการทำการตลาดแล้วก็จะได้ประมาณนี้
จะเห็นได้ว่า ระบบปฏิบัติ วินโดว์ที่อยู่นานและได้รับความนิยทมากที่สุดก็คือ Windows XP นั่นเอง ที่อยู่และใช้งานมาถึง 14 ปีกันเลยทีเดียว แต่ก็อย่างที่บอกเทคโนโลยีต้องมีการพัฒนาไปข้างหน้า ไมโครซอฟเองก็ไม่ยอมให้ผู้ใช้งาน ใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัยแน่นอน ก็เลยหาวิธีในการทำให้ผู้ใช้งานใช้งานต่อไปไม่ได้เช่น ไม่รองรับโปรแกรมต่างๆ , เชื่อมต่อเน็ตไม่ได้ ปัญหาต่างๆเหล่านี้ นั่นเป็นเพราะทางไมโครซอฟท์ ต้องการให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ ตัวใหม่นั่นเอง
มีอะไรใหม่บ้างในวินโดว์ 11
ที่เห็นได้ชัดของการปรับปรุงใหม่ก็คือ Icon ต่างๆมีการปรับใหม่เกือบทั้งหมด ให้ดูทันสมัยขึ้น และปรับสี ของไอคอน และส่วนต่างๆ ให้น่าสนใจมากขึ้น
ส่วนถัดมาก็จะเป็นการปรับโลโก้ Windows ใหม่ให้ดูมนลบเหลี่ยมนอกทุกมุมให้โค้งมน และขยับให้โลโก้ หันหน้าตรง และปรับสีของโลโก้เน้นโทรสีอ่อนลง จากเวอร์ชั่นเดิม
ส่วนถัดมาก็เป็นเรื่องของ แถบเมนูเริ่ม Start ที่ทาง ไมโครซอฟท์ได้เปลี่ยนแนวคิดใหม่ ขยับจากตำแหน่งด้านซ้านเดิม เหมือนที่เราเคยเห็นในวินโดว์รุ่นก่อนหน้า หลายเวอร์ชั่น มาในเวอร์ชั่นนี้ เขาขยับมาไว้บริเวณกลางหน้าจอแทน ก็ดูดีไปอีกแบบ (สามารถตั้งค่าย้ายกลับมาทางซ้ายได้) และแท็ปต่างๆ ก็มีการทำให้เป็นมุมโค้งเหมือนกันทุกหน้าต่าง
อีกหนึ่งส่วนที่เป็นของใหม่นั่นก็คือ SNAP หรือตัวช่วยในจากจัดการหน้าต่างของ Windows 11 นี้สามารถมีรูปแบบให้เลือกหลากหลายขึ้น สามารถแบ่งหน้าต่างได้เยอะขึ้น จากเดิม Windows 10 ได้แค่ แบ่งครึ่ง แต่ใน Windows 11 นี้มีให้เลือกเยอะขึ้น
และอีกส่วนที่งานเปิดตัวครั้งนี้ ไมโครซอฟท์ เน้นเรื่องการสื่อสารกับกลุ่มคนต่างๆ ให้มากขึ้น จากการที่ทั่วโลกเจอปัญหาการแพร่ระบาดของ โคโรน่าไวรัส นั้น ไมโครซอฟท์เห็นความสำคัญของการติดต่อสื่อในช่องทางต่างๆ ว่าทุกคนต้องเข้าถึงได้ง่าย ก็เลยได้ติดตั้ง ไมโครซอฟท์ ทีม มาให้ในวินโดว์ 11 เลยโดยผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งเพิ่มเติม และการสนทนาแบบต่างๆได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม และใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์มและทุกๆอุปกรณ์สื้อสารที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้
อีกหนึ่งส่วนที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องนั่นคือ เกมส์ ซึ่งถ้าพูดถึงเกมส์บน PC หรือบนคอมพิวเตอร์แล้ว ไม่มีระบบปฏิบัติการไหน สามารถติดตั้งเกมส์และเล่นได้เหมือน Windows แน่นอน ไมโครซอฟท์พัฒนาเอนจิ้นที่จะช่วยให้การเล่น เกมส์สมจริงมากยิ่งขึ้น ครั้งนี้เปิดตัว AUTO HDR (High Dynamic Range) หรือให้เราเข้าใจง่ายๆว่า การปรับภาพในส่วนมุมที่มืด และมุมที่สว่าง ให้สามารถแสดงผลได้ดีมากยิ่งขึ้น การแสดงรายละเอียดในที่มืดชัดเจนขึ้น และส่วนสว่างเช่นท้องฟ้า ก็จะมีสีสันที่ชัดเจนเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง และยังมีเกมส์ในสโตร์ อีกเยอะแยะมากมายให้ได้สนุกและได้ประสบการณ์ใหม่ไปด้วยกัน
สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย เป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์พยามพลักดันมาโดยตลอดแต่ไม่เคยได้รับความนิยมเลยนั่นก็คือ Microsoft Store นั่นเอง มาในครั้งนี้ ไมโคซอฟท์งัดไม้เด็ดเพื่อชวนให้ DEV หรือผู้พัฒนาโปรแกรมต่าง นำแอปหรือโปรแกรมของตัวเองมาใส่ไว้ในสโตร์ โดยที่ไมโครซอฟท์ให้ลงฟรีเลย ไม่เก็บค่าส่วนต่างๆใดๆเลย เพื่อหวังว่า DEV เขาจะสนใจ สโตร์ของตัวเองบ้างในโอกาศต่อไป และมีแนวโน้มว่า แอปบนแอนดรอยด์ (บางแอป) จะสามารถใช้งานได้บน Wondows 11 ได้ เพราะไมโครซอฟท์จับมือกับ Intel เพื่อพัฒนาส่วนที่สามารถใช้งานแอปที่เขียนให้แอนดรอยด์ได้ในไม่ช้านี้ นั่นเอง
และมีส่วนที่เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เช่น มีแป้นพิมพ์แบบบนมือให้ใช้ , สามารถเขียนเป็นลายมือแล้วระบบจะแปลงเป็นข้อความให้อัตโนมัติ (ซึ่งยังไม่รองรับภาษาไทย) , พูดให้ระบบแยกเป็นคำพูดและพิมพ์ให้เรา (กูเกิลทำมานานล่ะ) , ปรับเสียงใหม่ทั้งหมด (ฟังดูดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ) , สามารถแยกพื้นที่ทำงานได้หลายส่วน ฯลฯ ที่พัฒนาให้มันทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับวินโดว์ 11 ที่มากความสามารถกว่าเดิม มีส่วนที่พัฒนาเพิ่ม และมีส่วนที่เพิ่มขึ้นใหม่ มากมาย แต่อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวในครั้งนี้ ยังไม่เปิดให้ดาว์โหลดแบบสมบูรณ์ ต้องรอประมาณปลายปีนี้ ไมโครซอฟท์ถึงจะเริ่มทยอย อัพเดทให้ตามลำดับ และสำหรับ วินโดว์ 11 นี้จะให้ใช้งานฟรี 1 ปี สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้ซื้อ License กับทาง ไมโครซอฟท์ และส่วนที่ซื้อแล้วก็อัพเดทได้ฟรีตามสิทธิ์และเงื่อนไขรุ่นที่ซื้อได้ทันที
ความต้องการของระบบ
โปรเซสเซอร์ | 1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) หรือเร็วกว่า พร้อม 2 คอร์ขึ้นไปบนโปรเซสเซอร์ 64 บิตที่เข้ากันได้ หรือ System on a Chip (SoC) |
หน่วยความจำ | RAM ขนาด 4 GB |
ที่เก็บข้อมูล | อุปกรณ์เก็บข้อมูล 64 GB ขึ้นไป |
การ์ดจอ | กราฟิกที่เข้ากันได้กับ DirectX 12 / WDDM 2.x |
จอแสดงผล | มากกว่า 9 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ HD (720p) |
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต | ต้องมีบัญชี Microsoft และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อตั้งค่า Windows 11 Home |
** สามารถดูรายะละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Microsoft **
เป็นอย่างไรกันบ้าง นายออนไลน์ นำมาฝากวันนี้ อาจจะถูกใจหลายๆคนที่กำลังรอ Windows 11 อยู่ ก็แนะนำ ให้รอไปก่อนรอให้เขาพัฒนาตัวรุ่นเต็มกว่านี้ก่อน เพราะถ้ารีบลงอาจจะเจอปัญหาทำให้เราทำงานไม่ได้ อันนี้ต้องระวัง เพราะยังไงเขาก็ต้องพัฒนาให้มันมีข้อบกพร่องน้อยที่สุด วันนี้นายออนไลน์ขอตัวลาไปก่อน ถ้ามีข้อสงสัยสามมารถ สแกนเข้าร่วม Open Chat ได้เลย