นายออนไลน์ จะมาแนะนำการ เลือกซื้อสินค้าออนไลน์ ก้าวเข้าสู่ยุค “ไทยแลนด์ 4.0” ตามนโยบายของภาครัฐฯ ที่ออกมาสนับสนุนการทำเทคโนโลยีมาใช้ และพัฒนาประเทศให้สามารถเทียบเคียงประเทศมหาอำนาจอื่นๆ หรือประเทศที่มีการพัฒนา และการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานต่างๆ
ปัจจุบันภาครัฐและภาคเอกชน ได้ส่งเสริมและสนับสนุนในด้านเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมและเตรียมความพร้อมในหลายๆด้านเช่น การนำระบบ “พร้อมเพย์” มาให้ประชาชน ได้เข้าถึงการจับจ่ายใช้สอยได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต เหมือนที่ผ่านมา
และธนาคารหลายธนาคารก็ออกระบบให้ พ่อค้าแม่ค้า สามารถทำธุระกรรมทางการเงินได้ง่ายโดยมีการใช้ “ระบบสแกนจ่าย” เพื่อให้ลูกค้าสามารถจับจ่ายใช้สอยได้ง่ายเพียงแค่สแกน QR Code ก็สามารถ จ่าย-รับ เงินค่าสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เงินสดอีกต่อไป และไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอนเข้าบัญชีต่างๆ
ส่วนการซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ก็ง่าย ด้วยบริการ “พร้อมเพย์” ที่ฟรีค่าบริการการโอนเงินโดยฟรีค่าธรรมเนียม และใช้งานง่าย โดยมีแค่ เบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้แล้วเพียงแค่นี้ก็สามารถจ่ายเงินค่าสินค้าและบริการได้ง่าย เพียงปลายนิ้วแล้ว พูกง่ายๆว่า เหมาะกับสายวู่วามมากเลยที่เดียว แต่ในความสะดวกสะบายเหล่านี้นี่เอง ก็จะหนีไม่พ้นกับ “มิจฉาชีพ” หรือผู้ร้ายที่แอบใช้ช่องโหว่ของระบบนี้ มาหลอกลวงผู้ซื้อ ให้เสียทรัพย์สิน โดยไม่ได้สินค้าที่ต้องการ
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า วันนี้นายออนไลน์ จะขอแนะนำ วิธีเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ที่เหล่าสายช็อปตัวยง ไว้เป็นข้อมูลไว้ก่อนเลือกซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บต่างๆ ที่เป็นเว็บส่วนตัว หรือตามเพจเฟสบุ๊ค และอื่นๆ ที่มีการชำระเงินแบบไม่มีการการันตี หรือเข้าใจง่ายๆว่า จ่ายก่อนถึงได้รับสินค้านั่นเอง หรือการโอนเงินโดนตรงหาผู้ขายในการซื้อสินค้า
ต้องบอกก่อนว่าก็ไม่ได้เป็นทุกที่นะ เพียงแต่ว่าร้านค้าออนไลน์เหล่านี้ ไม่มีการยืนยันตัวตนชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่ละเว็บก็จะมีการโฆษณา หรือเขียนข้อความน่าสนใจ เพื่อต้องการให้ลูกค้าสั่งสินค้าและชำระเงิน สั่งสินค้าโดยเร็ว และบางครั้งเราซึ่งเป็นเป็นลูกค้าก็ไม่ได้ตรวจสอบ หรือไม่ค่อยมีความชำนาญหรือมีประสบการณ์ในการซื้อสินค้าสักเท่าไหร่ บางครั้งอาจจะทำให้โดนหลอกได้ง่ายๆ วันนี้นายออนไลน์ จะมาแนะนำการซื้อและการตรวจสอบก่อนการสั่งซื้อ มาแนะนำกัน
1.ความน่าเชื่อถือ
สิ่งแรกที่เราจะต้องเห็นคือ เว็บไซต์หรือแฟนเพจ ต่างๆ ที่เป็นหน้าจำหน่ายสินค้าที่เราต้องการซื้อว่ามีการจัดทำเป็นลักษณะไหน ดูว่ามีการจัดวางหน้าเว็บหรือรูปสินค้าชัดเจนและหน้าสนใจหรือไม่
เว็บไซต์ควรจะมีรายละเอียดสินค้าชัดเจน เช่น รูปสินค้า,รายละเอียดสินค้า,ราคา ฯลฯ เว็บที่หน้าเชื่อถือก็ส่งผลให้ ความเป็นมืออาชีพ ของการขายสินค้า
2.ช่องทางการติดต่อ
ร้านค้าที่ดี จะต้องมีช่องทางติดต่อที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้ามีช่องทางติดต่อสื่อสารได้หลากหลายเพราะถ้าเป็น “มิจฉาชีพ” ก็จะมีการติดต่อเพียงเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน การซื้อซิมเปลี่ยนใหม่ค่อนข้างสะดวก ดังนั้นถ้ามีแค่ช่องทางติดต่อน้อย ก็อาจจะโดนปิดกั้นได้ หรือโดนผู้ขาย ฉิ่งหนี นั่นเอง
ดังนั้นก่อนการตัดสินใจสั่งซื้อควรดูช่องทางติดต่อ ถ้ายิ่งมีช่องทางติดต่อเยอะยิ่งดี และองค์ประกอบที่ควรมีในช่องทางติดต่อคือ
1.เบอร์ติดต่อ
2.อีเมล์
3.สถานที่ตั้ง (แผนที่,Google Map)
4.กล่องสนทนา
5.โชเชียลมิเดียต่างๆ
ถ้ามีครบทุกข้อจะดีมาก แต่ก็ไม่ใช่กับทุกร้านที่ดีๆ เป็นแค่ส่วนเสริมเพื่อคัดกรองการเลือกผู้ขายสินค้าเท่านั้น ที่สำคัญต้องดูหลายๆองค์ประกอบรวมกัน
3.เว็บไซต์ของร้าน
เว็บไซต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถตรวจสอบได้ ว่าเปิดหรือจะทะเบียนมานานหรือยัง บางร้านอาจจะมีแค่แฟนเพจ แต่ไม่มีเว็บไซต์ บางที่มิจฉาชีพ ก็อาศัยช่องโหว่นี้ ก็เปิดแค่เพจแล้วนำรูปสินค้าที่ไม่ใช่ของตัวเองมาหลอกขาย ดังนั้นนายออนไลน์แนะนำว่า ร้านค้าออนไลน์จะต้องมีเว็บไซต์สำหรับร้านด้วย เพื่อลูกค้าจำสามารถตรวจสอบได้
ทีนี้เรามาถึงวิธีการตรวจสอบ ว่าโดเมนนั้นจดทะเบียนถูกต้องไหม และ เริ่มจดทะเบียน โดเมนตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น วิธีดูให้นำชื่อโดเมนไปว่างในช่อง https://www.whois.com/whois/
จากนั้นก็จะสามารถดูรายละเอียดประกอบการตัดสินใจ บางเว็บก็มีการซ่อนข้อมูล
เป็นอย่างไรบ้าง กับบทความดีๆ ของนายออนไลน์ รายละเอียดอาจจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง ดังนั้นผู้ซื้อเอง จะต้องระวังทุกครั้งที่จะมีการสั่งซื้อสินค้า โอกาศหน้า นายออนไลน์จะมาจะมาแนะนำอะไรติดตามนายออนไลน์ ได้ที่นี่ที่เดียวคร้าบบบ วันลาก่อนครับ